อุบัติเหตุรถไฟชนรถบรรทุก เจ้าของรถบรรทุกพร้อมเยียวยาครอบครัวคนขับรถไฟผู้เสียชีวิต

รถไฟชนรถบรรทุก เจ้าของรถบรรทุก พาลูกน้องคนขับมอบตัว พร้อมเจรจาเยียวยาครอบครัวคนขับรถไฟผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุรถไฟชนรถบรรทุก

จากกรณีอุบัติเหตุรถไฟบวนรถเร็วสายเชียงใหม่ ขบวน 109 กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ชนรถบรรทุกบรรทุกแบ็กโฮ บริเวณทางกั้นรถไฟคลองสำพรึง ตำบลพันลาน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายซึ่งเป็นคนขับรถไฟ และบาดเจ็บ 5 ราย โดยเหตุเกิดวันที่ 19 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (20 มกราคม 2567) พ.ต.อ.สมศักดิ์ เขียวอ่อน ผกก.สภ.ชุมแสง เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าของรถบรรทุกพ่วงคันที่เกิดอุบัติเหตุ ได้นำตัวคนขับรถบรรทุก ซึ่งเป็นลูกจ้างมามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวน สภ.ชุมแสง แล้ว

เบื้องต้นทราบชื่อ คือนายวินัย อายุ 36 ปี ได้ถูกพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา กระทำการประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต และได้ปล่อยตัวกลับไปแล้ว เนื่องจากเจ้าตัวได้เข้ามามอบตัว โดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งจะมีการนัดหมายเพื่อส่งฟ้องอีกครั้ง

ส่วนการดำเนินการเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย ทางนิติกรของการรถไฟไทย จะมีการนัดหมายให้เจ้าของรถและคนขับมาดำเนินการเจรจาเพื่อชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป

ขณะที่นายสุเชาว์ อายุ 57 ปี เป็นพ่อของเจ้าของรถบรรทุกพ่วง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและลูกชาย พื้นเพเดิมเป็นคน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ อยู่แล้ว แต่ในส่วนของลูกชาย ได้แยกย้ายไปมีครอบครัว และทำธุรกิจอยู่ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งเมื่อวานนี้ ลูกชายได้กลับมาเยี่ยมหาตนที่บ้าน พร้อมกับมาเจรจรพูดคุยเพื่อขายหัวรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุให้กับคนในพื้นที่นี้คนหนึ่ง โดยมีนายวินัย ซึ่งเป็นลูกจ้างของลูกชาย ขับรถพามาก่อนจะพากันเดินทางกลับ จ.ชลบุรี ในช่วงค่ำแล้วไปประสบอุบัติเหตุโดนรถไฟตามข่าว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้สอบถามกับลูกชายแล้ว เขาบอกว่า ได้ใช้เส้นทางนั้น เพื่อจะไปออกถนนสายเอเชียก่อนมุ่งหน้ากลับ จ.ชลบุรี แต่เนื่องจากลูกจ้างของลูกชาย ไม่ชินเส้นทาง จึงทำให้ส่วนแชสซีของส่วนบรรทุกพ่วงที่บรรทุกรถแบ็กโฮมาด้วย ไปติดคาอยู่บนรางรถไฟ จนรถไม่สามารถเคลื่อนขยับต่อไปได้

ทางลูกชายและคนขับรถ รวมถึงคนขับรถแบ็กโฮที่ติดตามมาด้วยอีกคน จึงรีบลงจากรถก่อนจะรีบไปช่วยกันเคลื่อนย้ายรถแบ็กโฮลงมาจากส่วนพ่วงบรรทุก เพื่อลดน้ำหนักให้รถสามารถยกตัวได้เหนือราง ซึ่งทั้งหมดก็แบ่งหน้าที่ช่วยกันเคลื่อนย้ายรถแบ็กโฮลงอยู่ตรงรางรถไฟนั้น ประมาณ 20 นาที แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน

ตนยืนยันว่ารถบรรทุกของลูกชายไม่ได้มีการฝ่าแฝงกันรถไฟอย่างแน่นอน เพราะไปติดคารางอยู่แบบนั้นนานพักใหญ่แล้ว

ส่วนเรื่องการชดใช้เยียวยา นายสุเชาว์ ระบุว่า หลังสอบปากคำเสร็จ เมื่อเวลา 03.00 น. ทางลูกชายก็ได้ตกลงเจรจา เพื่อเยียวยาให้กับทางผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นพนักงานขับรถไฟไปก่อนแล้ว เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ส่วนการเยียวยาผู้บาดเจ็บ ต้องรอให้ทั้งหมด รักษาตัวให้หายดีก่อน จะมีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป รวมถึงการเจรจาในส่วนการชดใช้ความเสียหายของรถไฟด้วย

ขอขอบคุณบทความจาก : รถไฟชนรถบรรทุก